อาคารสูงมักต้องเผชิญกับสภาวะอากาศรุนแรง ทั้งแดด ฝน ลมแรง ปัญหาน้ำรั่วซึมจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และสามารถเกิดได้กับทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบประปา ระบบปรับอากาศ หรือแม้แต่น้ำฝนจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหา น้ำรั่ว
การปล่อยให้ปัญหาดำเนินต่อไปโดยไม่รีบแก้ไข อาจทำให้เกิดผลเสียต่อโครงสร้างและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทความนี้จาก ProSumer จะช่วยคุณเข้าใจตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหา วิธีแก้ไข ไปจนถึงการป้องกันในระยะยาว พร้อมแนะแนวการเลือกวัสดุกันซึมที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 1: การตรวจสอบและประเมินการรั่วซึม
การดำเนินการทันทีเมื่อพบปัญหาน้ำรั่ว
- ปิดวาล์วน้ำหลักทันที (หากปลอดภัย) เพื่อหยุดน้ำและลดความเสียหาย
- ย้ายของมีค่าและอุปกรณ์ไฟฟ้าออกจากบริเวณที่เปียก
- หากน้ำรั่วรุนแรง รีบแจ้งผู้จัดการอาคาร / รปภ. / หน่วยฉุกเฉินทันที
การระบุจุดต้นเหตุของน้ำรั่ว
การจะซ่อมแซมให้ตรงจุด ต้องรู้ให้ได้ว่า “น้ำรั่วมาจากไหน” เริ่มจากการสังเกตเบื้องต้นในจุดที่สามารถเห็นได้ด้วยตา เช่น
- คราบน้ำบนฝ้าเพดานหรือผนัง
- สีปูนที่เริ่มพองหรือหลุดร่อน
- กลิ่นอับชื้นผิดปกติ
- เสียงน้ำไหลโดยที่ไม่มีการใช้งาน

ภาพความเสียหายที่เกิดจากปัญหาน้ำรั่วซึมในอาคาร
ในอาคารสูง แหล่งที่มาของการรั่วสามารถมาจากหลายระบบ เช่น
- ระบบประปา: ท่อรั่ว, ข้อต่อหลวม
- ระบบกันซึมบนหลังคา: เสื่อมสภาพ, แตกร้าว
- หน้าต่าง: ซีลยางหลุด, โครงรั่ว
- ระบบแอร์: ถาดน้ำแอร์ล้น, ท่อน้ำแอร์ตัน
หากปิดวาล์วน้ำแล้วยังเห็นมิเตอร์หมุน แสดงว่าเป็นปัญหาจากระบบประปา แต่ถ้าไม่มีฝนและไม่ใช่น้ำจากท่อ ก็อาจเป็นจากระบบแอร์ วิธีแบบนี้จะช่วยให้คุณ “จำกัดขอบเขต” ปัญหา และเลือกเรียกผู้เชี่ยวชาญให้ตรงกับสาเหตุได้เร็วขึ้น
เก็บทุกข้อมูลที่เกิดขึ้นไว้ให้ครบ ก่อนเริ่มซ่อม
อย่าลืมจดบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เช่น
- จุดที่พบการรั่ว
- วันที่ เวลา
- ขนาดพื้นที่ของจุดที่เกิดความเสียหาย
- การแก้ไขเบื้องต้นที่ดำเนินการไปแล้ว

การบันทึกข้อมูลและถ่ายภาพความเสียหายก่อนเริ่มซ่อมรอยรั่ว
และที่สำคัญคือ ถ่ายภาพหรือวิดีโอสภาพพื้นที่ไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานเปรียบเทียบก่อน-หลังการซ่อมแซม ซึ่งมีประโยชน์มากในการ:
- การติดตามผลการซ่อม
- การเคลมประกันภัย
- การวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณไม่แน่ใจว่าปัญหามาจากไหน หรือไม่สามารถจัดการได้เอง อย่าลังเลที่จะเรียกผู้เชี่ยวชาญโดยทันที เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลามและค่าใช้จ่ายในการซ่อมที่อาจสูงขึ้น
ประเภทผู้เชี่ยวชาญที่ควรติดต่อ เช่น:
- ช่างกันซึม: กรณีที่รั่วจากหลังคา/ผนัง
- ช่างประปา: สำหรับท่อแตก, น้ำซึมจากท่อ
- ช่างแอร์: ถ้าเป็นน้ำจากระบบแอร์
- วิศวกรโครงสร้าง: หากปัญหาการซึมรุนแรงจนมีผลกับโครงสร้างอาคาร
ขั้นตอนที่ 2: การซ่อมแซมและบรรเทาปัญหาเบื้องต้น
อุดรอยรั่วชั่วคราวเพื่อควบคุมสถานการณ์

ภาพการซ่อมแบบอุดรอยรั่วชั่วคราว
หากพบรอยรั่วที่ยังไม่รุนแรงมาก และสามารถเข้าถึงได้ง่าย เราสามารถใช้วัสดุอุดชั่วคราวเพื่อช่วยชะลอหรือหยุดการรั่วได้ในระยะสั้น วัสดุที่นิยมใช้ ได้แก่:
- ซีเมนต์แห้งเร็ว (Water Plug): แข็งตัวไว อุดรอยรั่วหรือรอยแตกได้ดี
- เทปกันน้ำหรือเทปพันท่อชนิดพิเศษ: ใช้พันท่อหรือรอยรั่วที่มีแรงดันต่ำ
- พุตตี้อีพ็อกซี่กันน้ำ: ใช้อุดรอยแตกเล็ก ๆ และยึดเกาะได้แม้มีความชื้น
แต่ควรระวัง: วิธีเหล่านี้ใช้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลามในช่วงแรก ยังจำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการแก้ไขอย่างถาวรในขั้นตอนถัดไป
แนะนำวัสดุอุดรอยรั่วคุณภาพ:

Sika MonoTop®-102 Water Plug TH: ซีเมนต์แห้งเร็วพิเศษ สำหรับอุดรอยน้ำรั่ว
การซ่อมแซมถาวรตามประเภทของการรั่ว
1. การรั่วของระบบประปา หากพบว่าแหล่งรั่วมาจากระบบประปา สิ่งสำคัญคือ ต้องให้ช่างประปาที่มีความชำนาญเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด โดยการตรวจควรครอบคลุมทั้งระบบ เช่น:
- ข้อต่อที่อาจหลวม หรือรั่วซึม
- รอยแตกของท่อที่เกิดจากการขยายตัวหรือหดตัวตามอุณหภูมิ
- แหวนยางรองที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
แนวทางการซ่อม ขึ้นอยู่กับสภาพของระบบ อาจรวมถึง:
- การเปลี่ยนท่อหรือข้อต่อที่ชำรุด
- การปรับความดันน้ำให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
- หรือในบางกรณี อาจต้องปรับปรุงระบบท่อใหม่ทั้งหมด หากระบบเดิมมีอายุใช้งานนานจนไม่สามารถซ่อมเฉพาะจุดได้
2. การรั่วซึมที่หลังคา ปัญหาหลังคารั่ว ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะหากปล่อยไว้อาจลุกลามไปสู่ความเสียหายของโครงสร้างและภายในอาคาร การซ่อมแซมต้องทำอย่างรอบคอบ โดยควรให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและประเมินสภาพหลังคาโดยรวมก่อน เพื่อวางแผนแก้ไขได้ตรงจุด

- หลังคาคอนกรีต: ถ้ายังไม่เคยติดตั้ง ระบบกันซึม มาก่อน ควรพิจารณาใช้ระบบกันซึมที่เหมาะสมกับสภาพหน้างาน เช่น ระบบกันซึมแบบทาหรือเมมเบรน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วในอนาคต
- หลังคากระเบื้อง: ตรวจเช็คกระเบื้องที่แตก บิ่น หรือแบน ซึ่งอาจเป็นช่องให้น้ำซึมเข้ามาได้ง่าย ตรวจสอบรางน้ำและท่อระบายน้ำ ว่ามีคราบตะกอน เศษใบไม้ หรือสิ่งอุดตันหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้น้ำไหลย้อนขึ้นมาทำให้หลังคารั่วซึม
แนะนำวัสดุกันซึมหลังคา-ดาดฟ้า คุณภาพ:
💡 อย่าลืม “ทดสอบการรั่ว” หลังซ่อม: หลังจากซ่อมแซมหรือเปลี่ยนระบบกันซึมเรียบร้อยแล้ว ควรมีการทดสอบการรั่วซึมด้วยน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าจุดที่ซ่อมแซมไม่มีน้ำรั่วซึมอีก และสามารถส่งมอบงานได้อย่างสบายใจ
3. การรั่วที่ผนังภายนอก
- ตรวจสอบทั่วอาคาร: หากพบจุดรั่ว ควรสำรวจทั้งผนังรอบอาคาร เพื่อวางแผนซ่อมทีเดียวให้คุ้มและได้ผล
- อุดรอยร้าวอย่างถูกวิธี: ใช้วัสดุคุณภาพ เช่น ซิลิโคนเกรดอาคาร หรือระบบกันซึมที่เหมาะกับสภาพผนัง
- ไม่ต้องกรีดก็ซ่อมได้: ปัจจุบันมีเทคนิคใหม่ที่ซ่อมรอยแตกร้าวได้โดยไม่ต้องสกัด ลดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
- ทาสีกันน้ำทับท้าย: เพื่อเพิ่มการป้องกันและให้ผนังดูใหม่ สดใส ยิ่งขึ้น
แนะนำใช้วัสดุอุดร่องคุณภาพ:

4. การรั่วของระบบปรับอากาศ ปัญหาการรั่วจากระบบปรับอากาศมักเกิดจาก:
- สาเหตุหลัก: ท่อระบายน้ำตัน, ถาดรอง น้ำรั่ว , ติดตั้งไม่ถูกต้อง
- วิธีป้องกันง่ายๆ: ล้างท่อระบายเป็นประจำ, เช็คถาดรองน้ำไม่ให้รั่วหรือเอียง, จัดท่อให้เอียงถูกมุม น้ำไหลสะดวก
ขั้นตอนที่ 3: การป้องกันและการบำรุงรักษา
ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจเช็คเป็นประจำ: ตรวจจุดเสี่ยงอย่างหลังคา ระบบน้ำ แอร์ และผนังภายนอก ปีละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังพายุ
- ดูแลก่อนเสีย = ประหยัดกว่า: ล้างรางน้ำ กันน้ำไหลย้อน, อุดรอยรั่วเล็กก่อนลาม, ดูแลแอร์ตามรอบ เพื่อลดความชื้นสะสม
- ผู้อยู่อาศัยร่วมมือ: ผู้อยู่อาศัยควรช่วยสังเกต คราบน้ำ กลิ่นอับ หรือเสียงผิดปกติ และแจ้งผู้ดูแลทันที
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
การดูแลก่อนเกิดปัญหา ช่วยประหยัดค่าซ่อมได้มากในอนาคต:
- ล้างรางน้ำ-ท่อระบายน้ำ สม่ำเสมอ ป้องกันการอุดตันและน้ำไหลย้อน
- อุดรอยร้าวเล็กๆ รอบวงกบ-ผนัง ก่อนจะลุกลาม
- ล้างแอร์-เช็คระบบระบายน้ำ ช่วยลดปัญหาน้ำซึมจากแอร์
การติดตั้งระบบกันซึม
การติดตั้งระบบกันซึมในบริเวณที่เสี่ยงต่อความเสียหายจากน้ำเป็นมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง สำหรับห้องน้ำและระเบียง ควรพิจารณาระบบกันซึมแบบซีเมนต์เบส 2 ส่วนผสมที่มีความทนทานและยืดหยุ่น การติดตั้งควรดำเนินการโดยการทาทั้งพื้นผิวและเสริมแรงบริเวณรอยต่อพื้นและผนัง ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดการรั่วซึม

ระบบกันซึมบนพื้นห้องน้ำหรือระเบียงก่อนปูกระเบื้องจากซิก้าและแลงโก้
แนะนำใช้ระบบกันซึมคุณภาพจาก Sika และ Lanko:
ชั้นวัสดุ | วัสดุที่แนะนำ | คุณสมบัติหลัก |
---|---|---|
เทปกันซึมบริเวณรอยต่อ | Sika® SealTape F | ใช้ปิดรอยต่อหรือมุมเชื่อมระหว่างพื้น–ผนัง ป้องกันน้ำซึมผ่านรอยต่อ ลดการแตกร้าว |
ซีเมนต์กันซึม | **SikaTop®Seal-107 LANKO 226 Flex | **สำหรับใช้กันซึมและป้องกันความชื้น ใช้ฉาบทากันซึมพื้นผิวเปียกชื้น ห้องน้ำ ถังเก็บน้ำ ระเบียง และสระว่ายน้ำก่อนปูกระเบื้อง |
ใช้เทคโนโลยีติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับ น้ำรั่ว
อุปกรณ์เล็ก ๆ เหล่านี้ติดตั้งง่าย เช่น ใต้ซิงก์ ใกล้เครื่องล้างจาน หรือรอบแอร์ เมื่อมีน้ำรั่วจะส่งเสียงเตือนหรือแจ้งผ่านแอปทันที ราคาจับต้องได้ แต่ช่วยป้องกันความเสียหายหลักหมื่นได้
ผู้อยู่อาศัยร่วมมือ ช่วยกันสังเกต
ส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยรู้เท่าทันสัญญาณเตือน เช่น คราบน้ำ กลิ่นอับ เสียงน้ำหยด พร้อมมีช่องทางแจ้งซ่อมที่สะดวก ให้ช่องทางที่ชัดเจนในการรายงานปัญหาไปยังผู้จัดการอาคาร
เช็คประกันภัยให้ครอบคลุม
ควรมีประกันที่คุ้มครองทั้งค่าเสียหาย ซ่อมแซม และค่าที่พักชั่วคราว หากต้องย้ายออกช่วงซ่อมแซม ควรทบทวนเงื่อนไขในกรมธรรม์อย่างสม่ำเสมอ
สรุป: ทำไมจึงต้องแก้ไขและป้องกันปัญหา น้ำรั่ว อย่างเป็นระบบ?
การแก้ไขปัญหาน้ำรั่วในอาคารสูงต้องอาศัยแนวทางที่เป็นระบบ ความร่วมมือจากทุกฝ่าย และการมองการณ์ไกลในด้านการป้องกัน การลงทุนในมาตรการป้องกันและการบำรุงรักษาเชิงป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือการดำเนินการอย่างรวดเร็วเมื่อพบปัญหา และการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีและยั่งยืน
สนใจผลิตภัณฑ์กันซึม หรือต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ?
หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาน้ำรั่วอย่างถูกวิธี หรือกำลังมองหาวัสดุกันซึมคุณภาพสูงจาก Sika หรือ Lanko ทีมขายของ Prosumer Supply พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ
📞 โทร: 098-2736930 | 0613970455 | 0631903878
🌐 ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติม: www.prosumersupply.co.th/ติดต่อเรา/