ไขข้อสงสัย: วอเตอร์สต็อปชนิดบวมน้ำ คืออะไร? เจาะลึกเหตุผลที่ตอบโจทย์งานรอยต่อคอนกรีตอย่างยั่งยืน

ทำความเข้าใจยางบวมน้ำ (Hydrophilic Waterstop) วัสดุที่ขยายตัวได้ 300-400% เมื่อสัมผัสน้ำ เพื่ออุดรอยรั่วใน Cold Joints และ Construction Joints ในงานฐานราก, ผนังใต้ดิน และถังเก็บน้ำ

วอเตอร์สต็อปชนิดบวมน้ำ (ยางบวมน้ำ) คืออะไร?

วอเตอร์สต็อปชนิดบวมน้ำ หรือที่ช่างมืออาชีพมักเรียกกันว่า ยางบวมน้ำ (Waterstop Swellable) เป็นวัสดุป้องกันการรั่วซึมที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับใช้ใน รอยต่อในงานก่อสร้างคอนกรีต และจุดเจาะทุกประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการซึมของน้ำ

แทนที่จะทำหน้าที่เป็นเพียงแค่แผงกั้นเหมือนวอเตอร์สต็อปแบบเดิม ยางบวมน้ำจะขยายตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น เพื่อสร้างแรงกดอุดช่องว่างและรอยแตกร้าว ทำให้เกิดซีลที่แน่นหนาและป้องกันน้ำซึมผ่านได้อย่างถาวร

ยางบวมน้ำสำหรับรอยต่อคอนกรีต

ประเภทของยางบวมน้ำและการใช้งาน

1. แบบเส้น (Hydrophilic Strip Applied Waterstop)

  • โดยทั่วไปผลิตจากยางสังเคราะห์หรือดินเบนโทไนต์ผสมยาง ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง
  • ยางบวมน้ำแบบเส้นขนาดและการขยายตัว: มีหลายขนาด เช่น 20×10 มม. หรือ 20×25 มม. แต่ละขนาดเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน และสามารถขยายตัวได้สูงถึง 300–400% โดยไม่ทำให้คอนกรีตแตก

การใช้งานยางบวมน้ำแบบเส้น

2. แบบหลอด (Gun Applied Swellable Sealant)

  • ลักษณะเป็นหลอดหรือฟอยล์ ใช้งานเหมือนวัสดุยาแนวทั่วไป
  • วัสดุที่ใช้ผลิต: เป็นโพลียูรีเทนชนิดหนึ่งส่วนผสม ที่บ่มตัวด้วยความชื้น มีอัตราการขยายตัวสมดุลประมาณ 200% ภายใน 30 วันในน้ำสะอาด
  • ข้อดีเพิ่มเติม: ยางบวมน้ำแบบหลอดยังสามารถใช้เป็นกาว ยึดยางบวมน้ำแบบเส้น ให้ติดกับคอนกรีตได้อีกด้วย

การใช้งานยางบวมน้ำแบบหลอดในงานคอนกรีต


กลไกการทำงาน: ทำไมยางบวมน้ำจึงหยุดน้ำได้ถาวร?

ภาพแสดงการขยายตัวของยางบวมน้ำเมื่อสัมผัสน้ำ

ยางบวมน้ำไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนกาวยาแนวธรรมดา แต่ใช้หลักการทางเคมีเพื่อสร้างการผนึกแบบอัตโนมัติ (Self-Sealing):

  • การติดตั้งในขั้นตอนก่อนเทคอนกรีตส่วนถัดไป: วอเตอร์สต็อปชนิดบวมน้ำจะถูกติดตั้งตามแนวรอยต่อของคอนกรีตที่หล่อไว้แล้ว โดยมักใช้กาวหรือตัวยึดเฉพาะ ก่อนเทคอนกรีตในส่วนต่อไปครอบทับ
  • การเกิดปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสความชื้นหรือน้ำ: เมื่อเกิดการซึมของน้ำผ่านแนวรอยต่อคอนกรีต ส่วนประกอบสำคัญในวอเตอร์สต็อป เช่น ดินเบนโทไนต์ (Bentonite Clay) หรือโพลีเมอร์ดูดซับน้ำ (SAP) จะเริ่มทำปฏิกิริยาด้วยการดูดซับน้ำเข้าสู่โครงสร้างโมเลกุล ทำให้วัสดุมีการ “พองตัว (Swelling)” เพิ่มขนาดได้หลายเท่า
  • การขยายตัวเพื่ออุดรอยรั่ว: การพองตัวนี้จะไปเติมเต็มช่องว่างภายในแนวรอยต่อคอนกรีตที่อาจเกิดจากการหดตัว, การหล่อไม่แน่น, หรือรูพรุนของคอนกรีต วัสดุที่บวมตัวจะสร้างแรงดันภายในรอยต่อจนเกิดเป็น “ซีลกันน้ำ” ที่แน่นหนาและยืดหยุ่น สามารถป้องกันน้ำซึมผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพและถาวร

การใช้งานที่จำเป็น: Cold Joints และ Construction Joints

Cold joints และ construction joints เป็นบริเวณในคอนกรีตที่มีความเสี่ยงต่อการรั่วซึมและแตกร้าวสูงที่สุด เนื่องจากเป็นจุดที่คอนกรีตสองส่วนมาบรรจบกัน การซึมผ่านของน้ำ ณ จุดเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาโครงสร้างได้:

  • การกัดกร่อนของเหล็กเสริม: น้ำที่ซึมผ่านทำให้เกิดการกัดกร่อนในเหล็กเสริม ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอลง
  • รอยแตกจากการขยายตัวของน้ำ: แรงขยายตัวที่เกิดจากการซึมของน้ำสามารถนำไปสู่การเกิดรอยแตกในคอนกรีต
  • อันตรายต่อสุขภาพ: การเจริญเติบโตของเชื้อราและเห็ดที่เกิดจากการซึมของความชื้น

การติดตั้งยางบวมน้ำบริเวณรอยต่อคอนกรีต

ความแตกต่างระหว่าง Cold Joint และ Construction Joint

  • Cold Joint (รอยต่อเย็น): คือบริเวณที่คอนกรีตเก่าและคอนกรีตใหม่มาบรรจบกัน โดยคอนกรีตชุดแรกแข็งตัวก่อนเทชุดใหม่ ทำให้เกิดการขาดการยึดติดกันของคอนกรีตเก่าและใหม่ จนเกิดช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างรอยต่อ
  • Construction Joint (รอยต่อก่อสร้าง): เป็นรอยต่อที่วางแผนไว้ระหว่างการเทคอนกรีตแต่ละครั้ง เพื่อให้สามารถกลับมาเทคอนกรีตต่อได้ในภายหลัง พร้อมทั้งรักษาความต่อเนื่องของการถ่ายแรงไว้

ตัวอย่างรอยต่อก่อสร้าง และรอยต่อคอนกรีตที่เกิด Cold Joint ในผนังคอนกรีต


4. ยางบวมน้ำใช้ที่ไหนได้บ้าง? บริเวณยอดนิยมที่ต้องมี

ยางบวมน้ำเป็นวัสดุหยุดน้ำและซีลกันรั่วที่ขาดไม่ได้สำหรับงานโครงสร้างเหล่านี้:

  • กำแพงกันดินและโครงสร้างใต้ดิน (Underground Structures)
  • ฐานรากและพื้นคอนกรีตบนดิน
  • อุโมงค์และท่อระบายน้ำ
  • เขื่อน คลอง และงานชลประทาน
  • ถังเก็บน้ำ สระว่ายน้ำ และบ่อบำบัดน้ำเสีย
  • จุดเจาะท่อและงานท่อสอดผ่านคอนกรีต

ตัวอย่างบริเวณงานก่อสร้างที่สามารถใช้งานวัสดุยางบวมน้ำได้


เหตุผลที่มืออาชีพต้องเลือกใช้ยางบวมน้ำ (และข้อควรพิจารณา)

คุณสมบัติเด่นของวอเตอร์สต็อปชนิดบวมน้ำ

  • ซีลอัตโนมัติ: ขยายตัวเมื่อสัมผัสน้ำ อุดรอยรั่วได้เองอย่างรวดเร็ว
  • ติดตั้งง่าย: มาในรูปเส้นหรือหลอด ใช้งานสะดวก สามารถยึดด้วยตะปูคอนกรีต
  • ปรับใช้ได้หลากหลาย: เหมาะกับรอยต่อซับซ้อน หรือจุดท่อสอดผ่านที่วอเตอร์สต็อปแบบแผ่นทั่วไปทำได้ยาก
  • ใช้งานได้กับพื้นผิวคอนกรีตทุกแบบ: (เรียบ หยาบ หรือไม่เรียบ) รวมถึงรอยต่อแนวนอนและแนวตั้ง

เทคนิคการเลือกใช้และข้อควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะกับรอยต่อที่เคลื่อนที่: ยางบวมน้ำถูกออกแบบมาสำหรับรอยต่อที่ไม่เคลื่อนที่เท่านั้น และไม่ควรใช้ในรอยต่อเพื่อการขยายตัว (Expansion Joint)
  • การบวมตัวก่อนเวลา: ควรเลือกชนิดที่มี สารหน่วงการบวมตัว เพื่อป้องกันไม่ให้ยางบวมน้ำบวมก่อนกำหนดเนื่องจากฝนหรือความชื้นก่อนการเทคอนกรีต
  • ระยะห่างจากผิวคอนกรีต: ผู้ผลิตจะระบุระยะห่างจากผิวคอนกรีตที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าแรงดันจากการขยายตัวของยางบวมจะไม่ทำให้คอนกรีตเกิดการแตกหัก

สรุป: ยางบวมน้ำ คือการลงทุนเพื่อความทนทานของโครงสร้าง

ยางบวมน้ำ หรือ วอเตอร์สต็อปชนิดบวมน้ำ (Hydrophilic Waterstop) ถือเป็นวัสดุกันซึมที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในงานก่อสร้างคอนกรีต โดยเฉพาะในบริเวณที่เป็น รอยต่อของคอนกรีต ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดปัญหาการรั่วซึมได้ง่าย

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของวัสดุที่สามารถ ดูดซับน้ำและขยายตัวได้หลายเท่าเมื่อสัมผัสน้ำ ยางบวมน้ำจึงสามารถเข้าไปอุดรอยรั่วเล็ก ๆ ตามแนวรอยต่อได้อย่างแนบสนิท และมีจุดเด่นในด้านการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว

ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวัสดุกันซึมที่คุ้มค่า ติดตั้งง่าย และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน “ยางบวมน้ำ” คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีมาตรฐานระดับโลกอย่าง Sika ซึ่งมีสินค้ากลุ่ม **SikaSwell® S-2** ที่ผ่านการทดสอบคุณสมบัติการบวมตัวและความทนทานต่อสภาวะต่าง ๆ

SikaSwell® S-2 วัสดุยาแนวชนิดบวมน้ำ

หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือสนใจวัสดุยางบวมน้ำ สามารถติดต่อเราได้ Prosumer Supply มีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและใบเสนอราคาจากผู้เชี่ยวชาญทันที!

คลิกที่นี่เพื่อติดต่อเราได้เลย!

บทความเพิ่มเติม