คู่มือ DIY: วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีตด้วยตัวเอง ตั้งแต่แตกลายงาถึงรอยร้าวใหญ่

รอยแตกร้าวประเภทต่างๆ บนพื้นและผนังคอนกรีต

รอยแตกร้าวบนพื้นหรือผนังคอนกรีตเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แม้รอยร้าวเล็กๆ อาจดูไม่น่ากังวล แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ บทความนี้จะแนะนำ วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต ด้วยตัวเอง ตั้งแต่รอยขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Sika และ LANKO เพื่อให้งานซ่อมของคุณมีประสิทธิภาพและสวยงามทนทาน

รอยแตกร้าวประเภทต่างๆ บนพื้นและผนังคอนกรีต วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

รอยแตกร้าวประเภทต่างๆ บนพื้นและผนังคอนกรีต


สิ่งแรกที่ต้องทำ : ประเมินรอยร้าวก่อนซ่อม

ก่อนจะเริ่มลงมือซ่อม สิ่งสำคัญที่สุดคือการ ประเมินลักษณะและความกว้างของรอยร้าว เพื่อเลือกวัสดุและวิธีการที่ถูกต้อง รวมถึงการ เตรียมพื้นผิว ให้พร้อม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วัสดุซ่อมแซมยึดเกาะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ความกว้างของรอยร้าว:

  • รอยร้าวขนาดเล็ก (แตกลายงา): ความกว้างน้อยกว่า 0.5 มม.
  • รอยร้าวขนาดใหญ่: ความกว้างตั้งแต่ 0.5 – 50 มม.
  • รอยร้าวอันตราย: หากกว้างกว่า 50 มม. หรือเป็นรอยร้าวที่ขยายตัวไม่หยุด อาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้าง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที

การเตรียมพื้นผิว: พื้นที่ที่จะซ่อมต้อง แข็งแรง สะอาด ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน หรือสีเก่า เพื่อการยึดเกาะที่ดีที่สุด

หมายเหตุสำคัญ: การซ่อมเพื่อความสวยงาม เช่น การฉาบปิดทับรอยแตกลายงา สามารถทำได้ง่าย แต่ถ้ารอยร้าวกลับมาปรากฏอีกและกว้างขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือสัญญาณเตือนของปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องให้วิศวกรเข้าตรวจสอบ


วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต โดยแยกตามขนาดของรอยแตก

1. วิธีซ่อมรอยร้าวขนาดเล็ก (แตกลายงา กว้างไม่เกิน 0.5 มม.)

สำหรับรอยแตกลายงา หรือรอยแตกผิวเล็กๆ สามารถซ่อมได้โดยใช้วัสดุอุดรอยแตกชนิดเทที่ไหลตัวได้ดีหรือฉาบปิดรอยแตกร้าวได้

วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต การซ่อมรอยแตกลายงาบริเวณผนัง

ใช้ LANKO 103 Skimcoat Plus เพื่อซ่อมปิดรอยแตกลายงาบนผนัง วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

ใช้ LANKO 103 Skimcoat Plus เพื่อซ่อมปิดรอยแตกลายงาบนผนัง

  • ใช้ปูนฉาบซ่อมประเภทฉาบบาง เช่น **LANKO® 103 Skimcoat Plus** ที่เป็นวัสดุพร้อมใช้
  • การเตรียมพื้นผิว: พื้นผิวต้องแข็งแรงสะอาด และสกัด/เจียรส่วนที่ไม่แข็งแรงออก
  • วิธีการซ่อม: ฉาบได้หนา 0.3-2 มม. และสามารถทาสีทับได้หลังจากแห้งตัวแล้ว

วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต การซ่อมรอยแตกลายงาบริเวณพื้น (ที่ต้องการความแข็งแรง)

ซ่อมรอยแตกร้าวด้วยปูนซ่อม Sika® Repair Mortar วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

ซ่อมรอยแตกร้าวด้วยปูนซ่อม Sika® Repair Mortar

  • วัสดุแนะนำ : **Sika® Repair Mortar**
  • ให้เลือกปูนฉาบซ่อมที่มีกำลังอัดสูงและมีเส้นใยไฟเบอร์ ที่สามารถฉาบบางได้ตั้งแต่ 1-25 มม.
  • การเตรียมพื้นผิว: พื้นผิวคอนกรีตจะต้องสะอาด พรมน้ำให้ชื้นแต่ไม่มีน้ำขังก่อนทำงาน

การซ่อมรอยร้าวขนาดเล็กแต่มีความลึก

ใช้อีพ็อกซี่เรซิ่น Sikadur-20 Crack Seal เพื่ออุดและประสานรอยแตกที่มีความลึกบนพื้นคอนกรีต วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

ใช้อีพ็อกซี่เรซิ่น Sikadur-20 Crack Seal เพื่ออุดและประสานรอยแตกที่มีความลึกบนพื้นคอนกรีต

  • วัสดุที่ใช้งานซ่อมลักษณะนี้จะต้องไหลตัวได้ดีและมีแรงยึดเกาะสูง แนะนำให้ใช้ Epoxy
  • วัสดุแนะนำ: **Sikadur®-20 Crack Seal** เป็นอีพ็อกซี่ เรซิ่น สองส่วนผสมกึ่งยืดหยุ่น สำหรับซ่อมรอยร้าวตั้งแต่ 0.3 -10 มม.
  • วิธีซ่อม: ผสม A ต่อ B ในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เทลงบนรอยร้าว น้ำยาจะค่อยๆ ซึมเข้าตามรอยร้าวเพื่อประสานปิดรอยร้าว โดยอาจต้องเทซ้ำ 2-3 ครั้งเพื่อให้เต็มรอย

2. วิธีซ่อมรอยร้าวขนาดใหญ่ (กว้าง 0.5 – 50 มม.)

สำหรับรอยแตกที่กว้างกว่า 0.5 มม. จำเป็นต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนกว่า

การซ่อมรอยแตกร้าวขนาดใหญ่บริเวณผนัง

  • กรีดเปิดร่อง: กรีดขอบด้านข้างของรอยร้าวให้เป็นรูปตัว V
  • ทำความสะอาด: ดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นผิว
  • ใส่วัสดุรอง (Backer Rod): หากรอยร้าวมีความลึกมากให้ใช้โฟมเส้นอุดร่องเป็นฐานรองรับ
  • อุดรอยร้าว: ใช้เกรียงอุดโป๊ว **Sikadur®-61 Epoxy PU Joint** ที่ผสมแล้ว
ขั้นตอนการใช้เกรียงอุดร่องรอยร้าวขนาดใหญ่ด้วย Sikadur®-61 Epoxy PU Joint วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

ขั้นตอนการใช้เกรียงอุดร่องรอยร้าวขนาดใหญ่ด้วย Sikadur®-61 Epoxy PU Joint

  • เก็บผิว: ปล่อยให้วัสดุเซ็ตตัวประมาณ 24-48 ชั่วโมง ก่อนการทาสี หรือฉาบปิดด้วย LANKO® 104 Skimcoat Flex

การซ่อมรอยแตกร้าวขนาดใหญ่บริเวณพื้น

การใช้ปูน Sika Mono Top-614T อุดลงในรอยแตกขนาดใหญ่บนพื้นคอนกรีต วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

การใช้ปูน Sika Mono Top-614T อุดลงในรอยแตกขนาดใหญ่บนพื้นคอนกรีต

  1. กรีดเปิดร่อง: กรีดขอบด้านข้างของรอยร้าวให้เป็นรูปตัว V
  2. ทำความสะอาด: ดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นผิว
  3. พรมน้ำ: พรมน้ำให้ผิวปูนอิ่มน้ำแต่ไม่มีน้ำขัง
  4. ใส่วัสดุรอง (Backer Rod): หากรอยร้าวมีความลึกมากให้ใช้โฟมเส้นอุดร่อง
  5. การเลือกวัสดุซ่อม:
    • รอยร้าวที่มีความกว้างน้อยกว่า 25 มม.: ใช้ Sika® Repair Mortar
    • รอยร้าวมีความกว้างกว่า 25 มม.: ใช้ Sika MonoTop®-614 T

สัญญาณเตือน: เมื่อไหร่ที่ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญ?

รอยแตกเชิงโครงสร้างที่เป็นสัญญาณอันตราย ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ วิธีซ่อมรอยแตกคอนกรีต

รอยแตกเชิงโครงสร้างที่เป็นสัญญาณอันตราย ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

สำหรับความเสียหายบางประเภท อาจจำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การซ่อมแซมมีประสิทธิภาพและอยู่ได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องมีปัญหาในการต้องซ่อมบ่อยๆ และซ่อมไม่จบ

  • รอยแตกที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ: หากรอยแตกขยายใหญ่ขึ้นหรือเกิดขึ้นใหม่หลังจากซ่อมแซมแล้ว อาจบ่งบอกถึงปัญหาฐานรากหรือการทรุดตัว
  • ปัญหาโครงสร้าง: รอยแตกในผนังฐานราก โดยเฉพาะที่มีลวดลายเป็นบันได อาจส่งสัญญาณถึงความเสียหายของโครงสร้างอย่างร้ายแรง
  • คอนกรีตไม่เสมอกัน: หากด้านหนึ่งของรอยแตกสูงกว่าอีกด้านหนึ่ง แผ่นคอนกรีตอาจทรุดตัวหรือยกตัวขึ้น
  • ความเสียหายกว้างขวาง: สำหรับความเสียหายขนาดใหญ่ การสกัดออกแล้วเทปูนใหม่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซ่อมแซมชั่วคราว

สรุป: การซ่อมรอยแตกคอนกรีตด้วยตัวเอง

การซ่อมแซมรอยแตกบนผิวคอนกรีตให้ได้ผลดีเริ่มต้นจากการประเมินความกว้างของรอยร้าวและเตรียมพื้นผิวให้สะอาดแข็งแรง สำหรับ รอยแตกลายงาขนาดเล็ก (<0.5 มม.) บนผนังสามารถใช้ LANKO® 103 Skimcoat Plus ส่วนบนพื้นควรใช้ปูนซ่อมกำลังสูงอย่าง Sika® Repair Mortar หรืออีพ็อกซี่ Sikadur®-20 Crack Seal สำหรับรอยร้าวลึก

ในขณะที่ รอยร้าวขนาดใหญ่ (0.5-50 มม.) ต้องกรีดร่องเป็นรูปตัว V ก่อนอุดด้วยวัสดุที่เหมาะสมกับงานพื้นและผนัง เช่น Sikadur®-61 Epoxy PU Joint หรือ Sika MonoTop®-614 T อย่างไรก็ตาม หากพบว่ารอยร้าวขยายตัวไม่หยุดหรือมีสัญญาณของปัญหาโครงสร้าง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันทีเพื่อการแก้ไขที่ยั่งยืนและปลอดภัย

พบปัญหารอยแตกร้าวบนคอนกรีตและไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นอย่างไร?

ติดต่อเรา วันนี้เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกผลิตภัณฑ์ Sika และ LANKO ที่เหมาะสมกับงานของคุณ

Tags :

บทความเพิ่มเติม